เดินจงกรมกัน

เดินจงกรมกัน

887
0
แบ่งปัน

หวัดดี ทำไรกัน วันนี้ร้อนจัง ข้าขึ้นไปเดินจงกรมบนภูเขา มีความสุขดี ไม่มีคนไม่มีงาน ก็มาทำงานทางจิต สุดยอดดีจริงๆ

ช่วงนี้หากใครมาข้าก็จะพาฝึกการเจริญจิต คนงานไม่อยู่เหมาะแก่การเจริญจิต เดี๋ยวไปฝึกในถ้ำกัน

ไปฝึกเพ่งกสิณ ฝึกทำสมาธิ เดินจงกรม ฟังธรรม ตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊กด้วย

ตอนนี้ที่นี่ มืดสนิท น่ากลัว ข้าว่าจะหนีขึ้นไปบนภูเขา ไปเดินจงกรม

ข้าจะคุยให้ฟังเรื่องการเดินจงกรม การเดินจงกรมนี่ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยฝึกกัน เรามักหนักมาทางการนั่งสมาธิซะมากว่า

เพราะการนั่งสมาธิ มันเป็นฟากขี้เกียจดี พวกเรามันชอบอะไรที่ขี้เกียจ อิริยาบทในการฝึกภาวนานี่ มันมี ทั้งการ เดิน ยืน นอน นั่ง

ยืนกับเดินนี่ อยู่ทางด้านวิริยะ

นั่งกับนอนนี่ อยู่ทางด้านขี้เกียจ

เรามันมักขี้เกียจ ก็เลยหนักมาทางนั่งและนอนกัน พวกพระนี่ เวลากินข้าวแล้ว ควรออกไปเดินจงกรม แต่ส่วนใหญ่แดกแล้วนอน หาพวกออกเดินจงกรมหลังอาหารไม่ค่อยมี

การเจริญภาวนาในอริยาบทเดินนี่ เป็นสมาธิที่เกิดปัญญาดีที่สุด เกิดได้ทั้งปัญญาวิมุติ และเจโตวิมุติ

การเดินจงกรม เมื่อเราก้าวขึ้นทางเดินจงกรมแล้ว เราจะตั้งวิตกยังไงก็ได้

วิตกคือการกำหนดตั้งขึ้นมา ว่าเราจะจรดจ่ออยู่กับสิ่งใด หากเราจะจรดจ่อกับคำบริกรรม อย่างเช่น พุทธโธ หรือสัมมาอระหัง หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้เราตั้งมั่นอยู่กับสิ่งนั้น

วิจารณ์คือการประคองบทภาวนา แมลงเยอะน่ะ จิ้มไม่ไหว แสบตาด้วย พักก่อน

มาต่อกันหน่อยนี่ตีสามเศษแล้ว พวกแกคงหลับกันอยู่ ถึงไหนแล้ว

เมื่อตั้งวิตกแล้ว หายใจยาวๆเข้าออกซักสี่ห้าพรืด ทำความรู้สึกสุขใจทอดตาลงต่ำ

แผ่กุศลทั้งปวงที่ได้เคยกระทำมาต่อพระแม่ธรณี และเหล่าเทวดา วิญญานทุกดวง

ก้าวเท้าขวาออกเดิน ไปให้สุดทาง ไปหยุดตรงปลายทางนู่นแหละ ตั้งสติดีๆ แล้วทำความรู้ตัวในการหมุนกลับ

เดินกลับมายังจุดเริ่มต้นด้วยอาการรู้สึกตัว นี่..เดินไปเดินมาแค่นี้

การเดิน เราจะเดินเอาใจจรดจ่อกับคำบริกรรมก็ได้ จะเอาใจจรดจ่อกับอริยาบทเดินก็ได้

จะเดินพิจารณาหัวข้อธรรมก็ได้ เดินเร็วก็ได้ เดินช้าก็ได้

จะเป็นทางดินก็ได้ ทางปูนก็ได้ ทางน้ำก็ได้ถ้าไม่กลัวจม ถ้าทางสายกลางนี่ เอาใจเดินน่ะ

การเดินจงกรม จะเป็นสมาธิได้ดี การนั่งมันง่วงได้ง่ายกว่า

นิมิตฟุ้งซ่านก็เกิดน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดนะ เกิดเหมือนกันเมื่อใจเข้าสู่สมาธิลึกๆ

การเดินจงกรมหากเดินในที่น่ากลัว ยามค่ำคืน บนภูเขา ในป่าช้า คนเดียว จะช่วยให้จิตใจแข็งแกร่งได้อย่างเยี่ยมยอด

เวลานั่งหลับตา มันมองไม่เห็นอาจจะดูน่ากลัว

แต่การเดินจงกรมมันลืมตา สติตั้งมั่นกว่า เกิดมีอะไรขึ้นมาอาจได้วิ่งกันน้ำบาน

การเดินจงกรมนี้มีคุณต่อใจที่จะทำสมาธิ เดินจนเหนื่อล้าแล้วมานั่งทำสมาธิ จะทำให้สมาธิตั้งมั่นได้ไว สติก็หนาแน่นมีกำลังต้านนิวรณ์ได้ง่าย

ข้าเองเกิดปัญญาทางธรรมขึ้นมาได้ ก็เพราะการเดินจงกรมเป็นเหตุ เดินไปพิจารณาไป

มันทำสงครามกันภายใน หากหยุดมองไปรอบกาย รอบข้างนี่มีแต่ความสว่างขาวโพลน ไร้รูปไร้เสียงกันเลยทีเดียว

ท้องฟ้า ภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้ มันหายไปจากคลองจักษุ สิ่งเหล่านี้ไม่มี ที่มีเป็นแค่ความโพลนจ้าของความขาว

แต่เมื่อ คลายกำลังลงมา หยุดการพิจารณา ทำความรู้สึกตัวกับตนเอง ภาพต่างๆทางคลองจักษุ มันจึงปรากฏ พร้อมเสียงภายนอกที่เข้ามากระทบ ทางโสตประสาท

นี่เป็นการเดินจงกรม ที่เราอาจไม่เคยคาดคิดกัน และทุกคนก็ทำกันได้

แรกๆเดิน อาจทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมในการเดิน เดินช้าๆก็ได้ เมื่อสติตามอริยาบทจนชำนาญ เราค่อยเดินไวขึ้น

ไม่จำเป็นต้องย่องเป็นนกกระยางทั้งปีทั้งชาติก็ได้ ถ้าความง่วงหรือขี้เกียจครอบงำ ก็ให้เดินเร็วๆ วิ่งเลยก็ได้

หากเดินจนเกิดสมาธิ มันจะเบาตัว ความหนักหน่วงทั้งหลายจะหายไป ใจมันเกิดการหดตัวเข้ามาอยู่ในอาการปิติจิต

อาจเกิดภาวะแปลกๆขึ้นมาให้ใจเราผัสสะ

หากเกิดภาวะนี้ขึ้นมา ไม่ต้องตกใจ กำหนดใจวางเฉยต่ออาการ

จงจำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันคือการปรุงแต่งแห่งภวังค์จิตทั้งสิ้น

แต่พวกเราคงเกิดยากว่ะ แค่คิดออกไปเดินจงกรมกัน มันก็คิดไม่ออกกันซะแล้ว

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจ ให้ทุกคนได้มีโอกาศเจริญธรรมในทุกๆอริยาบท

เช้านี้ขอสวัสดี

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 7 เมษายน 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง